2019 JAPAN TRIP (CHUBU-KANSAI) ตอนที่ 1 NAGOYA : INUYAMA กิโมโนสไตล์ เดินเที่ยวเล่นย่านเมืองเก่าอินุยามะ

 ชุบุ (Chubu) - คันไซ (Kansai) 7 คืน 8 วัน   (31 March - 7 April 2019)

เดินเที่ยวเล่นย่านเมืองเก่าอินุยามะ อากาศสดใสในฤดูใบไม้ผลิ และเทศกาลชมดอกซากุระ

การท่องเที่ยวเมืองเก่าอินุยามะ จังหวัดไอจิ เมืองนี้ไม่ไกลจากนาโกย่าค่ะ การเดินทางเราจะนั่งรถไฟ Meitetsu Limited Express จากเมืองนาโกย่าที่ Meitetsu Nagoya Station มาลงที่ Inuyama Station ระยะเวลาเดินทางประมาณ 28 นาที ระหว่างเดินทาง รถไฟจะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารประมาณ 4 สถานี หรือใครจะเดินทางจากสนามบินนานาชาติชูบุเซ็นแทรร์ ก็สามารถนั่งรถไฟ Meitetsu Limited Express ตรงมายัง Inuyama Station ได้เลยค่ะ ใช้เวลาประมาณ 1 ชม. วันที่เราเดินทางเป็นวันธรรมดา คนน้อย นั่งชิลๆ เลือกที่นั่งกันได้ตามสบาย นั่งชมวิวทิวทัศน์บ้านเรือนของคนญี่ปุ่น นั่งชมดอกซากุระริมทางเพลินเลยค่ะ

ถึงแล้วค่ะ สถานี Inuyama เดินออกทางฝั่งซ้ายมือของสถานี 

จากหน้าสถานี Inuyama ไปยังเมืองเก่าอินุยามะ เราจะใช้เวลาเดินกันประมาณ 10 นาที ระยะทางประมาณ 500 เมตร 

เมืองเก่าอินุยามะ มีชื่อว่า Inuyama Jokamachi เป็นถนนโบราณบรรยากาศบ้านเรือน ร้านค้า สไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม ตั้งเรียงราย 2 ฝั่งถนน มีทั้งร้านขายของฝาก ของที่ระลึก งานแฮนแมด ร้านอาหาร ร้านขนม ถนน Inuyama Jokamachi ทอดตัวยาวเป็นระยะทาง 1 กิโลเมตร จนถึงปราสาทอินุยามะ 

ก่อนเดินเที่ยวเล่นถนนโบราณอินุยามะ และปราสาทอินุยามะในวันนี้ เราขอแนะนำการเช่าชุดกิโมโน เพื่อถ่ายรูปสวยๆให้เข้ากับบรรยากาศเมืองเก่า ร้านที่จะแนะนำคือ ร้าน Inuyama Biyori มี 2 สาขา ซึ่งสาขาแรก อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟก่อนถึงถนนโบราณอินุยามะ สาขาที่สองอยู่บนถนนโบราณอินุยามะ ซึ่งเป็นร้านที่เรามาใช้บริการ 

เว็บไซต์ของร้าน: https://www.inuyamabiyori.com/english-top

หน้าร้านจะมีหุ่นโชว์ชุดกิโมโน พร้อมราคา ไม่ต้องกลัวว่าจะหาร้านไม่เจอค่ะ

บริเวณด้านหน้าชั้น 1 จะเป็นโซนขายของที่ระลึก ด้านในชั้น 1 ขายขนมหวานและเครื่องดื่ม 

ต้องการเช่าชุดกิโมโน เดินขึ้นบันไดไปยังชั้น 2 ค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 เปลี่ยนรองเท้าหน้าประตู แจ้งพนักงานว่ามาเช่าชุดกิโมโน มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ราคาการเช่าชุดกิโมโน อยู่ที่ 3,500 เยน หลังจากนั้นทางร้านจะให้สมุด 1 เล่ม ในนั้นจะมีรายละเอียดเงื่อนไขการเช่าชุด กฎระเบียบ ให้เราอ่านทำความเข้าใจ มีภาษาไทยค่ะ ไม่ต้องกังวล แต่อาจจะเป็นภาษาไทยแบบ google translate แต่ก็ทำความเข้าใจได้ค่ะ ถ้าไม่เข้าใจอ่านภาษาอังกฤษเพิ่มเติมค่ะ สำหรับระยะเวลาการเช่าชุดกิโมโน สามารถเช่าชุดได้ทั้งวันจนถึงเวลา 18.00 น. 

หลังจากนั้นพนักงานจะถามส่วนสูงของเรา ตัวอย่างเจ้าของ Blog สูง 162 cm ทางพนักงานจะให้เราเลือกชุด Size L ซึ่งพนักงานจะบอกค่ะว่า  Size L สามารถเลือกชุดตั้งแต่ชุดไหนถึงชุดไหน เลือกลาย เลือกแบบได้ตามใจชอบค่ะ 

เลือกชุดได้แล้ว พนักงานจะแนะนำผ้าคาดเอวที่เหมาะกับสีและลายชุดที่เราเลือก หรือถ้าไม่ชอบก็สามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมทช์ได้เองค่ะ

มีผ้าคาดเอวแล้ว ทางร้านก็จะแนะนำเชือกคาดเอว เชือกคาดเอวจะคาดทับผ้าคาดเอวอีกชั้นค่ะ ซึ่งเชือกคาดเอวต้องจ่ายเพิ่มในราคา 300 - 500 เยน แล้วแต่แบบ เช่น หยก เชือกถักรูปดอกไม้ หรือจะไม่เอาก็ได้ค่ะ ทางเราเลือกเบสิก 300 เยน แต่งชุดทั้งทีจัดเต็มค่ะ

เลือกชุดกิโมโน ผ้าคาดเอว เชือกคาดเอว ต่อไปเป็นการเลือกกระเป๋าถือและรองเท้า พนักงานก็จะช่วยแนะนำให้เราค่ะ พนักงานที่นี่น่ารักมากๆ หลังจากเลือกของทั้งหมดครบเซ็ตแล้ว เราจะไปแต่งตัวกันค่ะ

นี่คือกระเป๋าและรองเท้าที่เราเลือก ธีมชมพู ทุกอย่างก็จะเป็นสีชมพูค่ะ

สำหรับการแต่งตัว ทางร้านจะมีห้องแต่งตัว 2 ห้อง และห้องทำผม 1 ห้อง ซึ่งในห้องแต่งตัวจะเป็นห้องแบบญี่ปุ่น มีกระจกบานใหญ่ตั้งไว้ดูตอนแต่งตัว เราไม่สามารถถ่ายรูปบรรยากาศภายในห้องมาให้ชมกันได้ สำหรับการแต่งชุดกิโมโน ทางร้านจะให้เราถอดชุดที่ใส่มาทั้งหมด เก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่ ที่ทางร้านเตรียมไว้ให้สำหรับฝากสัมภาระของเราไว้ที่ร้าน ทางเจ้าของ Blog ก็ไม่ได้เตรียมตัวไปเลยค่ะ โชคดีมากที่เราใส่เรกกิ้งกับฮีทเทคสีขาวไว้ด้านในชุด ตอนถอดชุดนอกออกเตรียมสำหรับแต่งกิโมโน เราก็เลยไม่โป้ ไม่งั้นคงเขินหนักมากค่ะ 

ขั้นตอนของการแต่งชุดกิโมโน ทางพนักงานจะสวมชุดซับในสีขาวแบบเดียวกับชุดกิโมโนให้เราค่ะ หลังจากนั้นสวมชุดกิโมโนที่เราเลือก ทับด้วยผ้าคาดเอว เชือกคาดเอว ขั้นตอนไม่มาก แต่การเก็บรายละเอียด การจัดระเบียบชุด การรัดชุดให้พอดีและสง่างาม ค่อนข้างซับซ้อน แต่ด้วยความชำนาญทำให้ทุกขั้นตอนเสร็จเร็วค่ะ แต่งชุดเสร็จ สวมถุงเท้าสีขาว ซึ่งถุงเท้านี้เรานำกลับบ้านได้เลยค่ะ ก่อนออกจากห้องแต่งตัว พนักงานจะถามเราว่าแต่งหน้าทำผมด้วยหรือไม่ ซึ่งทางเราผมสั้นค่ะ ทำผม แต่งหน้าจัดเต็มมาแล้ว ถ้าใครต้องการแต่งหน้าทำผมด้วย จ่ายเพิ่ม 1,500 เยน แต่งตัวเสร็จ ฝากของไว้ที่ร้าน นำเฉพาะมือถือของมีค่าติดตัวใส่กระเป๋าถือที่เราเลือกไว้  เก็บหมายเลขฝากของใส่กระเป๋าถือด้วยนะคะ อย่าทำหาย เราต้องมารับของคืน พร้อมลุยถนนโบราณอินุยามะกันแบบฉบับกิโมโนสวยๆค่ะ 

ซากุระกำลังบาน (1 เมษายน 2019)

ก่อนเดินไปปราสาทอินุยามะ จะมีสวนซากุระอยู่ด้านหน้า แวะชมดอกซากุระกันก่อนค่ะ

ชมซากุระกันเต็มอิ่ม เราจะเดินเข้าศาลเจ้าซังโคอินาริ (Sanko Inari Shrine) ศาลแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าที่คอยปกปักษ์รักษาปราสาทอินุยามะ และเป็นที่นิยมของวัยรุ่นสาวๆ เพื่อมาขอพรเรื่องความรัก

ก่อนเข้าศาลเจ้าก็ต้องชำระล้างมือตามแบบญี่ปุ่นกันก่อนค่ะ

เข้ามายังศาลเจ้า เราจะพบแผ่นไม้ขอพรเอมะซึ่งของที่นี่เป็นรูปหัวใจ โดยทั่วไปแผ่นไม้ขอพรญี่ปุ่นจะเป็นรูปห้าเหลี่ยม

ถัดจากแผนไม้ขอพรเอมะ จะเป็นทางเดินไปยังปราสาทอินุยามะ ต้องเดินผ่านเสาโทริสีแดงโดดเด่น เป็นอีกหนึ่งมุมที่นิยมถ่ายรูปกันค่ะ

เดินมาถึงทางเข้าปราสาท เตรียมซื่อบัตรเข้าชมปราสาทกันค่ะ

การซื้อบัตรเข้าชมปราสาทสามารถซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ หรือซื้อผ่านเครื่องขายตั๋วอัตโนมัติ เราเลือกซื้อผ่านเครื่องอัตโนมัติ แต่มีคุณป้าชาวญี่ปุ่นใจดีสื่อสารกับเราว่าเราใส่ชุดกิโมโนได้ส่วนลดค่าเข้าชม สื่อสารเป็นภาษาญี่ปุ่นค่ะ แต่เราก็พยายามทำความเข้าใจ และขอบคุณคุณป้าที่แนะนำ

หลังจากได้คำแนะนำ เราจึงเลือกซื้อตั๋วเข้าชมปราสาทกับเจ้าหน้าที่ ได้ส่วนลดสวยๆจากราคาเต็ม 550 เยน ลดแล้วเหลือ 380 เยน ส่วนตากล้องของเรานั้นจ่ายเต็มค่ะ

ได้ตั๋วเรียบร้อย เข้าชมปราสาทกันค่ะ

เดินเข้ามายังบริเวณปราสาทอินุยามะ หน้าทางเข้าจะเป็นลานกว้างๆ มีที่นั่งเตรียมไว้สำหรับเทศกาลชมดอกซากุระ

น่าเสียดายวันที่เราไป ซากุระด้านหน้าปราสาทอินุยามะยังไม่บานค่ะ

หลังจากเดินชมบริเวณด้านหน้าปราสาทแล้ว เราจะต่อแถวเพื่อขึ้นชมปราสาทอินุยามะด้านในกันค่ะ แถวในภาพคือวันธรรมดา แถวไม่ยาวมากค่ะ รอไม่นาน

เมื่อถึงหน้าทางเข้าปราสาท เราจะต้องถอดรองเท้า เก็บรองเท้าใส่ถุงหิ้ว โดยมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้ค่ะ

เดินเข้ามายังด้านในปราสาทเราจะพบกับบรรยากาศปราสาทไม้โบราณ ซึ่งยังคงความดั้งเดิมอยู่เกือบ 100% และแต่ละชั้นของปราสาทจะมีการจัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองอินุยามะ แต่ก่อนที่เราจะเดินชมประวัติความเป็นมา เราจะตรงดิ่งขึ้นไปยังชั้นบนสุดของปราสาทกันค่ะ

เดินขึ้นมาถึงด้านบน ต่อแถวเพื่อรอเดินชมวิวด้านนอกปราสาท ชมวิวเมืองอินุยามะ การต่อแถวทุกอย่างเป็นระบบระเบียบ เพราะนักท่องเที่ยวที่นี่เป็นชาวญี่ปุ่นเกือบ 100% ไม่มีการแซงคิวใดๆให้เห็น หรือทำให้เรารู้สึกหงุดหงิดในการเที่ยวแม้แต่น้อย ชอบมากค่ะกับบรรยากาศการท่องเที่ยวแบบนี้

วิวเมืองอินุยามะ ด้านหน้าปราสาท

วิวแม่น้ำ Kiso River ทางทิศใต้ของปราสาท บริเวณริมถนนเรียบแม่น้ำ จะเป็นต้นซากุระเรียงรายหลายร้อนต้นเลยค่ะ

วิวแม่น้ำและสะพานอินุยามะ Inuyama Bridge มีรถไฟกำลังวิ่งผ่านบนสะพานพอดีค่ะ

วิวเมืองอินุยามะ และชิงช้าสวรรค์ Japan Monkey Park

ชมวิวเมืองกันเต็มอิ่ม เราก็เดินลงมาชมประวัติความเป็นมาของเมืองอินุยามะ ภาพถ่าย ของเก่า ของโบราณ ที่จัดแสดงไว้ให้ชมกันแต่ละชั้น บรรยากาศดี ใส่ชุดกิโมโนมาแล้วเราก็ขอถ่ายภาพกันซักหน่อยค่ะ

ออกจากตัวปราสาท ด้านหน้าจะมีร้านอาหาร ร้านขนม ร้านขายของฝาก เราขอจัดไอศกรีมกินสู้กับอากาศหนาว โดยต้องหยอดเหรียญ กดเลือกเมนูก่อนนะคะ แล้วจึงเอาใบสั่งซื้อให้กับทางร้านค่ะ

ไอศกรีมชาเขียว 300 เยนค่ะ

เก็บภาพปราสาทกันก่อนออกไปเดินเล่นกันที่ถนนริมแม่น้ำค่ะ

ต้นซากุระถนนริมแม่น้ำ ด้านหลังปราสาท ซากุระกำลังเริ่มบานค่ะ

เราย้อนกลับมาเดินเล่นถนนโบราณอินุยามะกันค่ะ

เดินชมปราสาทกันเต็มที่ เราจะต้องเติมพลังด้วยการหาของอร่อยๆกินกันค่ะ เริ่มจากร้านปลาย่าง 焼き鮎  ร้านนี้ฮอตฮิตสำหรับคนญี่ปุ่น ต่อแถวกันยาวตามภาพเลยค่ะ

ร้านอุด้ง และยากิโซบะ ชุดละ 700 เยน เป็นร้านของคุณลุงคุณป้าชาวญี่ปุ่น ร้านเล็กๆ บรรยากาศเหมือนกินข้าวอยู่บ้านค่ะ

ร้านดังโงะเสียบไม้

ลองทาน 1 ไม้ค่ะ ว่าจะอร่อย เหนียว นุ่ม ขนาดไหน

ร้านทาโกะยากิ  森のマルシェ เราเลือกทาโกะใส้เนื้อ+ปลาหมึก เลือก 2 แบบเลยค่ะ อร่อยทั้ง 2 แบบ

แวะกินของอร่อยและเดินเล่นกันมาทั้งวัน จนถึงเวลาเย็น เราจะถ่ายรูปเก็บภาพบรรยากาศเมืองเก่ากันก่อนกลับ ก่อนไปคืนชุดกิโมโนค่ะ เราเช่าชุดเดินเล่นกันประมาณ 4 ชม. ตั้งแต่เวลาเที่ยงวัน จนถึง 16.00 น. พอเริ่มเย็น ร้านค้า ร้านอาหาร ก็จะเริ่มปิดให้บริการค่ะ

ถ้าใครสนใจเที่ยวเมืองเก่าสไตล์ญี่ปุ่น คนไม่เยอะ บรรยากาศดีๆ แนะนำเลยค่ะ อินุยามะ เดินทางง่ายสะดวกจากนาโกย่า อยากให้มาสัมผัสบรรยากาศ แล้วคุณจะหลงรักเมืองนี้