2016 TAIWAN TRIP ตอนที่ 7 เส้นทางรถไฟสายโรแมนติก "ผิงซี" (Pingxi Line)
ไต้หวัน 7 วัน 6 คืน (6-12 November 2016 )
เส้นทางรถไฟสายผิงชี (Pingxi Line) ตั้งอยู่ที่เมืองนิวไทเป (New Taipei City) ในอดีตสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นเข้ามาปกครองเส้นทางนี้ถูกเปิดขึ้นเพื่อขนส่งถ่านหิน แต่ปัจจุบันทางรัฐบาลไต้หวันได้มีการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดยมีระยะทางความยาว 30 กิโลเมตร สถานีรถไฟแต่ละสถานีมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน และแต่ละสถานีมีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอาหารและขนม พร้อมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางนี้ได้รับความนิยมมาจากภาพยนตร์โรแมนติกของไต้หวัน เรื่อง You Are the Apple of My Eye
การเดินทาง เริ่มต้นกันที่ Taipei Main Station จุดรวมขนส่งสาธารณะทั้งหมดของไทเป วันนี้เราจะใช้บริการรถไฟท้องถิ่น TRA (Taiwan Railways Administration) เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว Pingxi Line การซื้่อตั๋วรถไฟสามารถซื้อได้ที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติ แต่ปัญหาก็คือ เป็นภาษาจีนและดูสับสน เราจึงตัดสินใจซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ ปลายทางที่เราต้องลงคือ Ruifang Station (รุ่ยฟาง) ขบวนที่กำลังจะเข้าเทียบชานชาลา เป็นรถไฟท้องถิ่น Local Train ราคาค่าโดยสารคนละ 49 NT$ ประมาณ 55 บาท (TRA มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับสถานีที่เราจะไปค่ะ Limited Express / Express / Fast Local Train / Local Train)
ซื้อตั๋วรถไฟแล้วเราก็เตรียมเข้าสถานีค่ะ ทางเข้าสถานี TRA (รถไฟท้องถิ่น) จะอยู่ตรงข้ามกับทางเข้า THSR (รถไฟความเร็วสูง)
เข้าสถานีโดยการสอดตั๋ว และตั๋วจะถูกเจาะรูค่ะ
เข้าสถานีมาแล้วก็เดินลงไปรอที่ชานชาลา เพื่อความชัวร์ถามเจ้าหน้าที่ประจำสถานีได้ค่ะ เขาอำนวยความสะดวกเต็มที่ เพราะเราก็ถามค่ะ ดีกว่าขึ้นผิดชีวิตเปลี่ยน
ที่ชานชาลามีป้ายไฟภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีนตลอดค่ะ สบายใจได้ แม้จะไม่รู้ภาษาจีน
(ถ่ายภาพภาษาอังกฤษไม่ทันนะคะ ได้ป้ายไฟภาษาจีนมาแทน)
บรรยากาศชานชาลา
บรรยากาศชานชาลา
ขณะรอเราก็เก็บภาพรถไฟ TRA Limited Express ที่กำลังเข้าชานชาลา
ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko National Park) ก็จะได้ขึ้นรถไฟ Limited Express แบบนี้ค่ะ
นอกจากเราที่ถามเจ้าหน้าที่ คนอื่นก็ถามค่ะ บอกแล้วเจ้าหน้าที่เขาดูแลผู้โดยสารเต็มที่
แอบเก็บภาพชานชาลาอีกฝั่งมาค่ะ เป็นชานชาลาของรถไฟความเร็วสูง THSR
นั่งเล่นไปซักพัก รถไฟ Local Train ขบวนที่เราต้องขึ้นมาและค่ะ
พอรถไฟเทียบชานชาลาตกใจเล็กน้อย คือ คนแน่นมาก เพราะเป็นวันธรรมดาซึ่งผู้โดยสารหลายๆคนมาจากชานเมืองเพื่อที่จะเข้ามาทำงานในตัวเมืองไทเป ทำให้เราต้องยืนไปซักพักค่ะ พอรถไฟเริ่มออกนอกเมืองไทเป คนก็เริ่มน้อยลง ก็จะดูโล่งๆและมีพื้นที่ให้เราได้นั่งกันค่ะ
ใช้เวลาเดินทางจาก Taipei Main Station ไปถึง Ruifang Station ประมาณ 1 ชม. รถจอด 11 สถานี (รวม Ruifang) คือจอดทุกสถานีค่ะ และก็จอดหลบรถไฟ Express ด้วยค่ะ
วิวตึกเมืองไทเป ขณะออกนอกเมือง
นั่งชมวิวนอกเมืองไทเปไปเพลินๆค่ะ เบาะนั่งสบาย และสามารถซื้ออาหารมาทานบนรถไฟได้ค่ะ
ออกจากสถานีใหญ่ เพราะแวะจอดรอให้รถไฟ Express ผ่านค่ะ
ถึงและค่ะ Ruifang Station
Ruifang Station ถือได้ว่าเป็นสถานีสุดท้ายค่ะ ทุกคนจะลงจากรถ ไม่ต้องกลัวหลง
ลงจากรถไฟเก็บภาพซักหน่อยค่ะ เพราะตอนขึ้นมาจาก Taipei Main Station คนแน่นเก็บภาพไม่ได้เลยค่ะ
ภายในรถไฟ Local Train เบาะนั่งนิ่ม นั่งสบาย อยากให้รถไฟ Local Train บ้านเราเป็นแบบนี้บ้าง
ป้ายสถานี Ruifang Station
เมื่อถึง Ruifang Station เราต้องไปซื้อตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass คนค่อนข้างเยอะค่ะ ดูได้จากภาพด้านขวา อาจพูดได้เลยว่าทุกคนที่นั่งรถไฟมาจาก Taipei เพื่อมาเที่ยว Pingxi Line
ตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass ขึ้นลงได้ทุกสถานี ราคา 80 NT$
ด้านหน้าตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass
ด้านหลังตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass
รถไฟสาย Pingxi Line มีทั้งหมด 9 สถานี ใช้เวลาเดินทางจากต้นทางไปจนถึงปลายทางประมาณ 1 ชม. และจะมีบริการแค่ชั่วโมงละ 1 ขบวนเท่านั้น
รถไฟสายผิงชี 9 สถานี แต่จะมี 3-4 สถานีหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยม
1. Ruifang Station (จุดเริ่มต้น Pingxi Line)
2. Houtong Station (หมู่บ้านแมว / Houtong Cat Village)
3. Sandiaoling Station
4. Dahua Station
5. Shihfen Station (ปล่อยโคมลอย / น้ำตกซือเฟิ่น Shifen Waterfall)
6. Wanggu Station
7. Lingjiao Station
8. Pingxi Station (ไส้กรอกไต้หวันเจ้าดัง)
9. Jingtong Station (จุดสิ้นสุด Pingxi Line / ถนนโบราณสายเก่า)
ร้านขายของที่ระลึก Ruifang Station
เมื่อรถไฟออกจากสถานี Ruifang จะวิ่งลัดเลาะไปตามภูเขาและลำธาร เราจะได้สัมผัสถึงธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ช่วงที่เจ้าของบล๊อกไปท่องเที่ยวเป็นช่วงอากาศเย็นและฝนตกทั้งวัน ทำให้เรารู้สึกได้ว่านี่แหละโรแมนติกสุดๆ สมกับชื่อที่ใครๆก็เรียกว่า เส้นทางรถไฟสายโรแมนติก
ทริปนี้เรามีเวลาท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงชีเพียง 1/2 วัน เราจึงเลือกเที่ยวเพียงแค่บางสถานี ด้วยบรรยากาศฝนตกตลอดทั้งวัน การเดินเล่นอาจไม่ค่อยเป็นใจ เราจึงเลือกเที่ยวที่ Shihfen Station และ Jingtong Station ค่ะ ถ้าใครเป็นทาสแมวคงไม่พลาด Houtong Station แต่สำหรับเรานั้นขอผ่านนะคะ
Shihfen Station
สถานี Shihfen คนลงกันเยอะค่ะ เพราะเป็นที่นิยมสำหรับปล่อยโคมลอยเพื่อขอพร และเราสัมผัสได้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงชี คือ คนเกาหลีและญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่าสามารถมาเจอโอปป้าหล่อๆได้ที่นี่ค่ะ
บรรยากาศ Shihfen ยามฝนตก
บรรยากาศสถานีรถไฟ วิวภูเขา กับ สายหมอก
ถึงแล้วก็กางร่มลุยเม็ดฝนเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
ทางเดินทอดตัวยาวมาจากสถานี จะมีร้านค้าขายของตลอดทางค่ะ
แวะซื้อชานมไข่มุก เติมพลังกัน
พนักงานประจำหน้าร้าน
ชานมไข่มุกแบบร้อน แก้วละ 60 NT$
กระบอกไม้ไผ่ที่เห็น สามารถซื้อแล้วเขียนคำขอพรแขวนได้ค่ะ
แขวนกันตามทางรถไฟเรียงรายกันเลยค่ะ
เดินเที่ยวตามรางรถไฟค่ะ
ถ้าใครสนใจปล่อยโคมเลือกร้านได้ตามใจชอบได้เลยค่ะ โคมมีหลากหลายสี
เลือกโคมที่ต้องการ ทางร้านก็จะมากางโคมไว้กับราวเหล็กเพื่อให้เราเขียนคำขอพร ทั้งหมด 4 ด้านค่ะ
เราไม่ได้ปล่อยโคมลอย เลยถ่ายภาพบรรยากาศมาค่ะ
การปล่อยโคมลอยเพื่อขอพรเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ
กลุ่มนี้กำลังจะปล่อยโคมค่ะ
บริเวณเรียบทางรถไฟนอกจากร้านขายโคมลอย ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก
ช่วงเวลากลางวันพอดี เราเลยลองท้องกันเบาๆสองเมนู เริ่มจาก ปีกไก่ยัดใส้ ราคา 65 NT$ มาแล้วต้องลองค่ะ
อีกเมนู ถ้ามาไต้หวันต้องเห็นกันบ่อยแน่นอน นั่นก็คือ ปลาหมึกยักษ์ทอด ราคาถ้วยละ 150 NT$
บรรยากาศบริเวณสะพานแขวนใกล้กับสถานีรถไฟ ภาพไม่สามารถบรรยายความสวยงามได้ทั้งหมดค่ะ ต้องไปเห็นกับตาตัวเอง
ฝนตกปรอยๆ หมอกไหลเป็นทาง อากาศเย็นๆ ฟินค่ะ
ซักภาพกับสะพานแขวนก่อนนั่งรถไฟต่อไปยังสถานีสุดท้ายค่ะ
ตึกฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟค่ะ ด้านบนน่าจะเป็นร้านอาหาร
สถานีนี้เป็นที่นิยมขอพรด้วยการเขียนคำขอพรบนกระบอกไม้ไผ่
มาที่นี่ต้องเดินเล่นถนนสายโบราณ
แวะซื้อโคมลอยมินิเป็นที่ระลึกค่ะ
Jing Tong Railway Story House ร้านขายของที่ระลึกและโปสการ์ด
บรรยากาศภายในร้าน ของฝากเยอะมากค่ะ
ฝั่งนี้เป็นโคมลอยมินิ
ขาดไม่ได้เลยค่ะ เห็นตราปั้มนี่ต้องวิ่งเข้าใส่เลย
ปั้มเป็นที่ระลึก สมุดเตรียมไปเองค่ะ
เดินเล่นวนกลับมาทางรถไฟหน้าสถานี จุดนี้ค่ะเป็น Location ในภาพยนต์
ฝนตกชุ่มฉ่ำ
ใครที่มาถึงก็ต้องถ่ายรูปบรรยากาศรางรถไฟค่ะ
ถ่ายรูปเล่นรอรถไฟเพราะเรามาถึง location ในภาพยนต์ก็ต้องเก็บภาพกันซักหน่อย
รถไฟมาและค่ะ จอดส่งผู้โดยสายและจอดรอออกจากสถานีอีกพักใหญ่ค่ะ เพราะจะวิ่งแค่ขบวนละ 1 ชม. ข้อดีของการมาเที่ยวสถานีสุดท้ายนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศสถานีเก่าแก่แล้ว เราก็มีที่นั่งได้นั่งกันยาว 1 ชม.ค่ะ
ปิดท้ายกับภาพสถานี Jingtong Station
Ep. หน้าเราจะพาไปเที่ยว Jiufen Old Street กันต่อค่ะ โดยจะโดนทางจาก Ruifang Station (ต้นสายรถไฟผิงซี) เดินทางต่อไปไม่ไกล มาเที่ยวบริเวณนี้ได้สถานที่เที่ยว 2 ที่ในวันเดียวกันค่ะ
เส้นทางรถไฟสายผิงชี (Pingxi Line) ตั้งอยู่ที่เมืองนิวไทเป (New Taipei City) ในอดีตสมัยที่ประเทศญี่ปุ่นเข้ามาปกครองเส้นทางนี้ถูกเปิดขึ้นเพื่อขนส่งถ่านหิน แต่ปัจจุบันทางรัฐบาลไต้หวันได้มีการพัฒนาเป็นเส้นทางท่องเที่ยวโดยมีระยะทางความยาว 30 กิโลเมตร สถานีรถไฟแต่ละสถานีมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกัน และแต่ละสถานีมีร้านขายของที่ระลึก ร้านขายอาหารและขนม พร้อมทิวทัศน์ธรรมชาติที่สวยงาม เส้นทางนี้ได้รับความนิยมมาจากภาพยนตร์โรแมนติกของไต้หวัน เรื่อง You Are the Apple of My Eye
การเดินทาง เริ่มต้นกันที่ Taipei Main Station จุดรวมขนส่งสาธารณะทั้งหมดของไทเป วันนี้เราจะใช้บริการรถไฟท้องถิ่น TRA (Taiwan Railways Administration) เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว Pingxi Line การซื้่อตั๋วรถไฟสามารถซื้อได้ที่ตู้ออกตั๋วอัตโนมัติ แต่ปัญหาก็คือ เป็นภาษาจีนและดูสับสน เราจึงตัดสินใจซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ ปลายทางที่เราต้องลงคือ Ruifang Station (รุ่ยฟาง) ขบวนที่กำลังจะเข้าเทียบชานชาลา เป็นรถไฟท้องถิ่น Local Train ราคาค่าโดยสารคนละ 49 NT$ ประมาณ 55 บาท (TRA มีหลายประเภทขึ้นอยู่กับสถานีที่เราจะไปค่ะ Limited Express / Express / Fast Local Train / Local Train)
ซื้อตั๋วรถไฟแล้วเราก็เตรียมเข้าสถานีค่ะ ทางเข้าสถานี TRA (รถไฟท้องถิ่น) จะอยู่ตรงข้ามกับทางเข้า THSR (รถไฟความเร็วสูง)
เข้าสถานีโดยการสอดตั๋ว และตั๋วจะถูกเจาะรูค่ะ
เข้าสถานีมาแล้วก็เดินลงไปรอที่ชานชาลา เพื่อความชัวร์ถามเจ้าหน้าที่ประจำสถานีได้ค่ะ เขาอำนวยความสะดวกเต็มที่ เพราะเราก็ถามค่ะ ดีกว่าขึ้นผิดชีวิตเปลี่ยน
ที่ชานชาลามีป้ายไฟภาษาอังกฤษสลับกับภาษาจีนตลอดค่ะ สบายใจได้ แม้จะไม่รู้ภาษาจีน
(ถ่ายภาพภาษาอังกฤษไม่ทันนะคะ ได้ป้ายไฟภาษาจีนมาแทน)
บรรยากาศชานชาลา
บรรยากาศชานชาลา
ขณะรอเราก็เก็บภาพรถไฟ TRA Limited Express ที่กำลังเข้าชานชาลา
ถ้าใครไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติทาโรโกะ (Taroko National Park) ก็จะได้ขึ้นรถไฟ Limited Express แบบนี้ค่ะ
นอกจากเราที่ถามเจ้าหน้าที่ คนอื่นก็ถามค่ะ บอกแล้วเจ้าหน้าที่เขาดูแลผู้โดยสารเต็มที่
แอบเก็บภาพชานชาลาอีกฝั่งมาค่ะ เป็นชานชาลาของรถไฟความเร็วสูง THSR
นั่งเล่นไปซักพัก รถไฟ Local Train ขบวนที่เราต้องขึ้นมาและค่ะ
พอรถไฟเทียบชานชาลาตกใจเล็กน้อย คือ คนแน่นมาก เพราะเป็นวันธรรมดาซึ่งผู้โดยสารหลายๆคนมาจากชานเมืองเพื่อที่จะเข้ามาทำงานในตัวเมืองไทเป ทำให้เราต้องยืนไปซักพักค่ะ พอรถไฟเริ่มออกนอกเมืองไทเป คนก็เริ่มน้อยลง ก็จะดูโล่งๆและมีพื้นที่ให้เราได้นั่งกันค่ะ
วิวตึกเมืองไทเป ขณะออกนอกเมือง
นั่งชมวิวนอกเมืองไทเปไปเพลินๆค่ะ เบาะนั่งสบาย และสามารถซื้ออาหารมาทานบนรถไฟได้ค่ะ
ออกจากสถานีใหญ่ เพราะแวะจอดรอให้รถไฟ Express ผ่านค่ะ
ถึงและค่ะ Ruifang Station
Ruifang Station ถือได้ว่าเป็นสถานีสุดท้ายค่ะ ทุกคนจะลงจากรถ ไม่ต้องกลัวหลง
ลงจากรถไฟเก็บภาพซักหน่อยค่ะ เพราะตอนขึ้นมาจาก Taipei Main Station คนแน่นเก็บภาพไม่ได้เลยค่ะ
ภายในรถไฟ Local Train เบาะนั่งนิ่ม นั่งสบาย อยากให้รถไฟ Local Train บ้านเราเป็นแบบนี้บ้าง
ป้ายสถานี Ruifang Station
เมื่อถึง Ruifang Station เราต้องไปซื้อตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass คนค่อนข้างเยอะค่ะ ดูได้จากภาพด้านขวา อาจพูดได้เลยว่าทุกคนที่นั่งรถไฟมาจาก Taipei เพื่อมาเที่ยว Pingxi Line
ตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass ขึ้นลงได้ทุกสถานี ราคา 80 NT$
ด้านหน้าตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass
ด้านหลังตั๋ว Pingxi Line 1-Day Pass
รถไฟสายผิงชี 9 สถานี แต่จะมี 3-4 สถานีหลักๆ ที่นักท่องเที่ยวนิยม
1. Ruifang Station (จุดเริ่มต้น Pingxi Line)
2. Houtong Station (หมู่บ้านแมว / Houtong Cat Village)
3. Sandiaoling Station
4. Dahua Station
5. Shihfen Station (ปล่อยโคมลอย / น้ำตกซือเฟิ่น Shifen Waterfall)
6. Wanggu Station
7. Lingjiao Station
8. Pingxi Station (ไส้กรอกไต้หวันเจ้าดัง)
9. Jingtong Station (จุดสิ้นสุด Pingxi Line / ถนนโบราณสายเก่า)
ร้านขายของที่ระลึก Ruifang Station
เมื่อรถไฟออกจากสถานี Ruifang จะวิ่งลัดเลาะไปตามภูเขาและลำธาร เราจะได้สัมผัสถึงธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบ ช่วงที่เจ้าของบล๊อกไปท่องเที่ยวเป็นช่วงอากาศเย็นและฝนตกทั้งวัน ทำให้เรารู้สึกได้ว่านี่แหละโรแมนติกสุดๆ สมกับชื่อที่ใครๆก็เรียกว่า เส้นทางรถไฟสายโรแมนติก
ทริปนี้เรามีเวลาท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงชีเพียง 1/2 วัน เราจึงเลือกเที่ยวเพียงแค่บางสถานี ด้วยบรรยากาศฝนตกตลอดทั้งวัน การเดินเล่นอาจไม่ค่อยเป็นใจ เราจึงเลือกเที่ยวที่ Shihfen Station และ Jingtong Station ค่ะ ถ้าใครเป็นทาสแมวคงไม่พลาด Houtong Station แต่สำหรับเรานั้นขอผ่านนะคะ
Shihfen Station
สถานี Shihfen คนลงกันเยอะค่ะ เพราะเป็นที่นิยมสำหรับปล่อยโคมลอยเพื่อขอพร และเราสัมผัสได้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาท่องเที่ยวเส้นทางรถไฟสายผิงชี คือ คนเกาหลีและญี่ปุ่น ขอบอกเลยว่าสามารถมาเจอโอปป้าหล่อๆได้ที่นี่ค่ะ
บรรยากาศ Shihfen ยามฝนตก
บรรยากาศสถานีรถไฟ วิวภูเขา กับ สายหมอก
ถึงแล้วก็กางร่มลุยเม็ดฝนเที่ยวกันดีกว่าค่ะ
ทางเดินทอดตัวยาวมาจากสถานี จะมีร้านค้าขายของตลอดทางค่ะ
แวะซื้อชานมไข่มุก เติมพลังกัน
พนักงานประจำหน้าร้าน
ชานมไข่มุกแบบร้อน แก้วละ 60 NT$
กระบอกไม้ไผ่ที่เห็น สามารถซื้อแล้วเขียนคำขอพรแขวนได้ค่ะ
แขวนกันตามทางรถไฟเรียงรายกันเลยค่ะ
เดินเที่ยวตามรางรถไฟค่ะ
ถ้าใครสนใจปล่อยโคมเลือกร้านได้ตามใจชอบได้เลยค่ะ โคมมีหลากหลายสี
เลือกโคมที่ต้องการ ทางร้านก็จะมากางโคมไว้กับราวเหล็กเพื่อให้เราเขียนคำขอพร ทั้งหมด 4 ด้านค่ะ
เราไม่ได้ปล่อยโคมลอย เลยถ่ายภาพบรรยากาศมาค่ะ
การปล่อยโคมลอยเพื่อขอพรเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวจริงๆค่ะ
กลุ่มนี้กำลังจะปล่อยโคมค่ะ
บริเวณเรียบทางรถไฟนอกจากร้านขายโคมลอย ก็ยังมีร้านขายของที่ระลึก
ช่วงเวลากลางวันพอดี เราเลยลองท้องกันเบาๆสองเมนู เริ่มจาก ปีกไก่ยัดใส้ ราคา 65 NT$ มาแล้วต้องลองค่ะ
อีกเมนู ถ้ามาไต้หวันต้องเห็นกันบ่อยแน่นอน นั่นก็คือ ปลาหมึกยักษ์ทอด ราคาถ้วยละ 150 NT$
บรรยากาศบริเวณสะพานแขวนใกล้กับสถานีรถไฟ ภาพไม่สามารถบรรยายความสวยงามได้ทั้งหมดค่ะ ต้องไปเห็นกับตาตัวเอง
ฝนตกปรอยๆ หมอกไหลเป็นทาง อากาศเย็นๆ ฟินค่ะ
ซักภาพกับสะพานแขวนก่อนนั่งรถไฟต่อไปยังสถานีสุดท้ายค่ะ
Jingtong Station
สถานีสุดท้ายของเส้นทางรถไฟสายผิงชี มีถนนโบราณให้เดินเที่ยวชม เป็น Location ในภาพยนตร์โรแมนติกของไต้หวัน เรื่อง You Are the Apple of My Eye
ตึกฝั่งตรงข้ามสถานีรถไฟค่ะ ด้านบนน่าจะเป็นร้านอาหาร
สถานีนี้เป็นที่นิยมขอพรด้วยการเขียนคำขอพรบนกระบอกไม้ไผ่
มาที่นี่ต้องเดินเล่นถนนสายโบราณ
แวะซื้อโคมลอยมินิเป็นที่ระลึกค่ะ
Jing Tong Railway Story House ร้านขายของที่ระลึกและโปสการ์ด
บรรยากาศภายในร้าน ของฝากเยอะมากค่ะ
ฝั่งนี้เป็นโคมลอยมินิ
ขาดไม่ได้เลยค่ะ เห็นตราปั้มนี่ต้องวิ่งเข้าใส่เลย
ปั้มเป็นที่ระลึก สมุดเตรียมไปเองค่ะ
เดินเล่นวนกลับมาทางรถไฟหน้าสถานี จุดนี้ค่ะเป็น Location ในภาพยนต์
ฝนตกชุ่มฉ่ำ
ใครที่มาถึงก็ต้องถ่ายรูปบรรยากาศรางรถไฟค่ะ
ถ่ายรูปเล่นรอรถไฟเพราะเรามาถึง location ในภาพยนต์ก็ต้องเก็บภาพกันซักหน่อย
รถไฟมาและค่ะ จอดส่งผู้โดยสายและจอดรอออกจากสถานีอีกพักใหญ่ค่ะ เพราะจะวิ่งแค่ขบวนละ 1 ชม. ข้อดีของการมาเที่ยวสถานีสุดท้ายนอกจากจะได้สัมผัสบรรยากาศสถานีเก่าแก่แล้ว เราก็มีที่นั่งได้นั่งกันยาว 1 ชม.ค่ะ
ปิดท้ายกับภาพสถานี Jingtong Station
Ep. หน้าเราจะพาไปเที่ยว Jiufen Old Street กันต่อค่ะ โดยจะโดนทางจาก Ruifang Station (ต้นสายรถไฟผิงซี) เดินทางต่อไปไม่ไกล มาเที่ยวบริเวณนี้ได้สถานที่เที่ยว 2 ที่ในวันเดียวกันค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น