2017 JAPAN TRIP (TOKYO) ตอน 11 เดินทางไปญี่ปุ่นกับ Hong Kong Airlines

โตเกียว 7 คืน 8 วัน (25 March - 1 April 2017 )

Hong Kong Airlines (HX)
สายการบิน Full Service สัญชาติฮ่องกง
ประเภทเครื่อง: Airbus A330-200 / Airbus A330-300
รูปแบบที่นั่ง: Economy 2-4-2 (สามารถเลือกที่นั่งได้)
การเช็คอิน: Boarding Pass 2 ใบ
ขาไป (Bangkok to Hong Kong / Hong Kong to Tokyo)
ขากลับ (Tokyo to Hong Kong / Hong Kong to Bangkok)
การโหลดสัมภาระ: น้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 kg. / Check Through ไปยังปลายทาง
การต่อเครื่อง: สนามบินฮ่องกง Hong Kong International Airport (Terminal 1)
(เผื่อเวลาอย่างน้อย 2 ชม. / อาจมีดีเลย์)
เที่ยวบินดึก: อาหารว่าง (แซนวิส / ขนมปัง) + เครื่องดื่ม (น้ำเปล่า / น้ำอัดลม / น้ำผลไม้)
เที่ยวบินปกติ: เสริฟอาหาร Full Options

ภาพ Booking ที่นั่งสำหรับเที่ยวบินไปเจแปนของเรา
Economy Zone ด้านหน้า (แถวแรกลำดับที่ 31 / แถวสุดท้ายลำดับที่ 47)
Economy Zone ด้านหลัง (แถวแรกลำดับที่ 48 / แถวสุดท้ายลำดับที่ 62)

อาจมีคำถามว่าทำไมเลือกด้านหลัง คำตอบก็คือ ที่นั่ง Window Seat คู่กัน ด้านหน้าไม่มีแล้ว ซึ่งเรา Booking ที่นั่งก่อนบินเป็นเดือนแต่ก็เต็ม การ Booking ที่นั่งเราเลือกจองผ่าน Call Center ถ้าจะ Booking ผ่านหน้าเว็บโดยทำการ Online Check-in สามารถทำได้ก่อนบิน 2 ถึง 48 hours

หนึ่งเหตุผลที่เราเลือกบินฮ่องกงแอร์ไลน์ ไม่ใช่แค่ Save Cost (10,xxx บาท) แต่เพราะรูปแบบการจัดที่นั่ง 2-4-2 โดยที่นั่ง Window Seat เป็นคู่ ได้ความเป็นส่วนตัว ซึ่งไม่ต้องนั่งติดกับคนอื่นที่ไม่รู้จัก

25 March 2017 Japan Calling
เที่ยวบินออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 03.30 น. (ดีเลย์ Take off 04.00 น.) ต่อเครื่องกันที่ฮ่องกง เวลา 09.05 น.(เวลาฮ่องกง) ซึ่งจะมีเวลาต่อเครื่อง 2 ชม.10 นาที (ดีเลย์ Take off 10.00 น.) และถึงจุดหมายปลายทางที่สนามบินนาริตะ เวลา 13.55 น.(เวลาญี่ปุ่น) (ดีเลย์ Landing 14.20 น.) เราเลือกบินเวลานี้เพราะที่พักให้ Check-in หลังเวลา 16.00 น.

ขึ้นเครื่องกันที่สนามบินสุวรรณภูมิ Suvarnabhumi Airport
Boarding Pass (Bangkok to Hong Kong / Hong Kong to Tokyo) ถือไว้ 2 ใบนะคะ อย่าทำหาย
อาหารบนเครื่องเที่ยวบินดึกเป็นของว่างคือ แซนวิส (ไม่ได้ถ่ายรูปมาคะ)

เปลี่ยนเครื่องกันที่สนามบินฮ่องกง Hong Kong International Airport (Terminal 1)

หลังจากลงเครื่องเดินตามป้าย Transfer เดินไปเรื่อยๆก็จะไปเจอกับป้าย Transfer Information จะมีตารางบินแสดงอยู่ ให้ตรวจสอบเที่ยวบินของเราว่าต้องไปต่อเครื่องที่ Gate หมายเลขอะไร ตอนที่เราไปเราได้ Gate 2xx เข้าประตูตาม Gate จะต้องผ่านจุดตรวจสำหรับ Transfer มีการตรวจ Boarding Pass (Hong Kong to Tokyo) ตรวจสัมภาระและสแกนร่างกาย หลังจากนั้่นก็เดินลงบันไดเลื่อนไปที่ Gate เพื่อรอขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่น (บริเวณที่นั่งมีที่เสียบปลั๊ก, เสียบ USB)

เที่ยวบิน Hong Kong to Tokyo อาหารบนเครื่อง (อาหารจีน)

เที่ยวบิน Hong Kong to Tokyo อาหารบนเครื่อง (Breakfast)

(ภาพบนเครื่องไม่ได้ถ่ายมานะค่ะ เพราะเราบินกับฮ่องกงแอร์ไลน์ในทริปฮ่องกง 2 ครั้ง และบนเครื่องไปญี่ปุ่นคนค้อนข้างเยอะ ไม่สะดวกถ่ายรูป)

1 April 2017 Bye Bye Japan

สัมภาระ 4 คน เต็มรถ

สนามบินนาริตะ Narita International Airport (Terminal 2)

เที่ยวบินออกจากสนามบินนาริตะ เวลา 15.55 น.(เวลาญี่ปุ่น) ต่อเครื่องที่ฮ่องกงเหมือนเดิม เวลา 22.45 น.(เวลาฮ่องกง) ซึ่งจะมีเวลาต่อเครื่อง 2 ชม.40 นาที และถึงเมืองไทย เวลา 00.45 น. (ดีเลย์ค่ะ เนื่องด้วยสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีที่ให้ลงจอด เราเลยต้องบินวนเกือบชั่วโมง)

ว่าด้วยเรื่อง การตรวจสัมภาระสำหรับโหลดใต้ท้องเครื่อง

1. เผื่อเวลามาสนามบินอย่างน้อย 3-5 ชั่วโมง เพราะจะเสียเวลาที่จุดเช็คอินและตรวจสัมภาระ

2. เจ้าหน้าที่จะตรวจขนาดกระเป๋า และน้ำหนักกระเป๋า แบบละเอียด

3. เจ้าหน้าที่ไม่มีอะลุ่มอล่วยให้ ในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกินจากที่กำหนดมากเกินไป

จากที่สังเกตุคนอื่นๆ เจ้าหน้าที่จะให้ซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม หรือในกรณีกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่สามารถลากขึ้นเครื่องได้ ถ้าวัดขนาดกับช่องทดสอบแล้วไม่ผ่านคุณก็ต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม ส่วนของเรา 4 คน รวมกันน้ำหนักเกินมา 0.6 kg. เจ้าหน้าที่ปล่อยผ่านค่ะ